ช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่คล่อง คนตกลงานกันเยอะ อากาศก็ร้อนมากกว่า
ทุก ๆ ปี ทำให้ผู้คนทั้งหลายหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี แถมบรรยากาศทางการเมือง ยังคุกรุ่นไปด้วย
ความขัดแย้ง ดูแล้วบ้านเมืองเต็มไปด้วยความทุกข์ ทำยังไงกันดีล่ะครับ ประชาชนถึงจะหาทาง
ออกได้ ต้องพึ่งพาอาศัยรัฐบาลกันดีไหม? แต่อย่าเลยดีกว่าครับ ปล่อยให้รัฐบาลท่านทำงาน
ของท่านไปให้ดีก็แล้วกัน ให้เอาตัวให้รอดก่อนนะครับ
เมื่ออาทิตย์ก่อนผมไปทำธุระที่โรงพยาบาลพญาไท 1 ในระหว่างที่นั่งรอหมอ ก็ได้หยิบ
หนังสือของโรงพยาบาลขึ้นมาเล่มหนึ่ง พลิกไปเจอบทความเรื่อง “อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี”
น่าสนใจมากครับ ผมนึกถึงบรรยากาศที่บ้านเมืองและเศรษฐกิจจะเป็นเช่นนี้ น่าจะเป็นทาง
ออกให้คนบ้านเราได้ ผมขอเล่าโดยสรุปก็แล้วกันนะครับ
บทความเรื่องนี้ บอกว่าสถาบันวิจัยอาหารในภาคใต้ของอังกฤษพบว่า “อาหารเป็นสิ่ง
จำเป็นต่อร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก โดยมีผลอย่างรวดเร็วต่อความตื่นตัว ว่องไว ระดับ
พลังงาน ความจำ และสมาธิ ทั้งยังสามารถช่วยลดความซึมเศร้าได้ สารอาหารที่เราได้กัน
เข้าไป จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์และการทำงานด้านจิตใจของคนเรา”
“คาร์โบไฮเดรตทำให้เกิดความสงบ สบาย โปรตีน ทำให้ตื่นตัว ว่องไว”
ร่างกาย มีเซลนับพันล้านเซล เชื่อมต่อกันเป็นวงจร สลับซับซ้อน มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
ไปตามเซลประสาทหนึ่งไปสู่อีกเซลหนึ่ง โดยสารสื่อ 2 ชนิดคือ โดปามีน (Dopamine)
และเซโรโทนิน (Serotonin)
โดปามีน (Dopamine) มันคือสารเคมีทางสมองที่ได้มาจากอาหารโปรตีน ซึ่งมีผล
ในการกระตุ้นเซลสมองให้มีสมาธิ และความว่องไว
ส่วนเซโรโทนิน มันคือสารเคมีในสมองที่ได้มาจากอาหารคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีผล
ทำให้สมองเกิดความสงบระงับ และบรรเทาความเครียด วิตกกังวล ไม่รู้สึกหงุดหงิด ว้าเหว่
เศร้าซึม สับสน ลืมง่าย หรือโมโหร้าย
บอกได้เลยครับ
1. ปลาแซลมอน
2. ปลาแม็กคาเรล
3. น้ำมันคาโนลา (Canola oil)
4. ผักโขม
5. ถั่วสด (Chicpeas)
6. ไก่
จะมีโอเมก้า 3 มาก ช่อยป้องกันโรคหัวใจ มะเร็ง และทำให้อารมณ์ดี แถมยังต้านอนุมูลอิสระ
ปลาแม็กคาเรล มีโอเมก้า 3 มากเช่นกัน น้ำมันคาโนลา มีวิตามินอีมาก ทำให้อารมณ์สดชื่น
แจ่มใส ควรนำมาใช้ทอดปลาแซลมอน หรือทำอาหารสุขภาพรับประทาน ผักโขม เป็นผักใบ
สีเขียวเข้ม มีโฟเลตสูงช่วยให้อารมรณ์ของคนเราอยู่ในระดับปกติ ถั่วสด มีโฟเลตสูง มีวิตามิน
และมีไฟเบอร์ ถั่ว Chickpeas มีโปรตีนสูง มีไขมันต่ำ มีโฟเลตสูง มีไฟเบอร์ไอออน (Ion)
มีวิตามินมาก ที่สำคัญคือรสอร่อยครับ สุดท้ายก็คือ ไก่ ควรรับประทานตรงเนื้อหน้าอก ล้วนๆ
ไม่เอาหนังนะครับ จะได้โปรตีนสูงมาก มีวิตามินบี 6 มาก และช่วยสร้างเซโรโทนิน
ขอให้ทุกท่านลองไปหารับประทานกันดูนะครับ ถ้าเป็นไปได้จะจัดงานและให้มีอาหาร
ประเภทนี้ทั้งหมด เลี้ยงนักการเมืองบ้านเราดูสักครั้ง จะทำให้เขาขัดแย้งกันน้อยลงหรือเปล่า?
โดย ประพัทธ์โชต ธนวรศาสตร์
เรียน ท่าน ผ อ . ครับอย่าเลี้ยงนักการเมืองพวกนี้เลยครับ อาหารเหล่านี้นักการเมืองไทยเขาไม่ชอบหรอก เพราะอาหารหลักที่เขากินกัน มันต้อง หิน ดิน ทราย สนามบิน รถดับเพลิง และโครงการใหญ่ ๆ เขาถึงจะอารมณ์ดี ครับ
ไว้ต้องลองไปทานดูบ้างแร้นล่ะ
————————————–
ซื้ออะไรกันเวลาไปเซเว่นอีเลฟเว่น
มาสร้างนิสัยรักการอ่านกันเถอะ
มาทำอะไรเพื่อสังคมไทยกันบ้างเถอะ
มาดูoutdoor backpacking
ถูกแล้วครับท่านผอ. กินอย่างไร เป็นอย่างนั้น you are what you eat ลองไปดูบล๊อกของเจ้านี้ดู เขาก็มีเรื่องกิน เรื่องเที่ยวให้ดู ได้เพลินนะhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chaaimwan&month=08-2009&date=03&group=10&gblog=32
ฟังเรื่องเล่าอาหารจากท่านผู้อำนายการแล้ว อดที่จะหยอดความเห็นไม่ได้ครับ ต้องขอเอาเรื่อง เมนูบ้าน ๆ ที่มาด้วยประโยชน์มาสอดแทรก เป็นเรื่องเดียวกัน
น้ำพริก-ผักลวก-ปลาทูทอด อาหารไทยแท้ แต่ประโยชน์ไม่แพ้อาหารตามภัตตาคารแม้แต่นิดเดียวครับยิ่งท่านที่ต้องที่ต้องการลด น้ำหนักด้วย ยิ่งดีครับ ที่บ้านผมเรียกได้ว่า แทบจะเป็นเมนูประจำ “มือค่ำ”ข้างบ้านบอกว่ายิ่งทานคู่ “ข้าวกล้อง” ยิ่งมีประโยชน์มากมายมายครับ
เห็นเมนูท่านผู้อำนวยการฯ แล้ว แต่ละมื้อสำหรับ เจ้าหน้าที่ตัวใหญ่ แต่รายได้น้อยอย่างพวกผม คงต้องกลับมาอยู่ในสถานะที่แท้จริงครับ วันนี้ผมเลยขอเอาเมนู ที่เรียนว่าบ้าน ๆ หาทานได้ง่าย ๆ มาฝาก อย่างน้ำพรก-ปลาทู นี้แหละครับ
วันก่อนผมไปประชุมที่ สภาการพยาบาล ได้หยิบเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ ว่าด้วยเรื่อง ผักและเมนูพื้นบ้านไทย ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
1. ผักกวางตุ้ง (Chinese Cabbage) : จากข้อมูลของ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของผักกวางตุ้งเอาไว้ว่า “กวางตุ้งนั้นมีคุณประโยชน์คือ มีวิตามินซีถึง 6 มิลลิกรัม/100 กรัม แคลเซียมสูงถึง 8.5 มิลลิกรัม/100 กรัม ที่หรูไปกว่านั้นคือมีเบต้าแคโรทีนมากถึง 225 ไมโครกรัม/100 กรัม ดังนั้น นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้วยังช่วยบำรุงสายตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้ดี แม้กวางตุ้งจะมีคาร์โบไฮเดรตด้วย แต่ก็มีไขมันต่ำมากทั้งเป็นไขมันไม่อิ่มตัว จึงไม่มีพิษภัยใดๆ กวางตุ้งยังให้กากใยอาหารทำให้ถ่ายคล่องอีกด้วย”
2. ข้าวโพดอ่อน (Baby Corn) : พูดถึงเรื่องรสชาติของเจ้าข้าวโพดอ่อนที่ทั้งกรอบ-หวาน พอมาดูเรื่องประโยชน์ด้วยแล้วยิ่งควรที่จะทานครับ ผมลองเข้าไปดูใน internet เขาบอกเอาไว้ว่า ถ้าทานข้าวโพดอ่อนเป็นประจำจะช่วย “ลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยย่อยอาหาร ลดอาการบวมน้ำ รักษาโรคไตอักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง และจมูกอักเสบเรื้อรัง ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้เจริญอาหาร กระตุ้นให้กระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีอีกด้วย….โอโฮฮฮฮ…เรียกว่าสารพัดประโยชน์จริง ๆ
3. มะเขือเปาะ (Brinjal) : เป็นมะเขือที่คนไทยรู้จักดี แต่มีคนที่ไม่ชอบอยู่มาก อาจมาจากหลายสาเหตุนะครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ผักที่มีประจำอาหารที่บ้านครับ สำหรับเจ้าประโยชน์ของคุณมะเขือนี่ก็ไม่เบาครับ จากข้อมูลของ สสส. เจ้าเก่าเค้าว่าไว้ว่า “ในมะเขือมีวิตามินบี 1 จำนวนมาก ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของสมอง ช่วยความจำดี ลดอาการอ่อนเปลี้ยของสมอง การรับประทานเป็นประจำ จะช่วยให้เส้นเลือดไม่เปราะ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และโรคลักปิดลักเปิด”…โอ้ว ! แม่เจ้า อันนี้อันตรายสำหรับท่านสุภาพบุรุษ ที่ชอบทำอะไรมิดีไว้นะครับ อย่าให้คุณแม่บ้าน ทานบ่อยนะครับ เพราะการมีความจำเป็นเลิศ จะจดจำอะต่อมิอะไรได้หมด…กึ๋ยยๆๆๆ ต้องให้งดมะเขือด่วน
4.ปลาทู ไม่ว่าจะทอด-ต้ม-ย่าง ล้วนแล้วแต่รสเลิศทั้งนั้นครับ เมื่อก่อนเคยมองว่าปลาทูก็เป็นแค่ปลาธรรมดาๆ อย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราลองเข้าไปดูเรื่องประโยชน์แล้ว เจ้าปลาทูนี่ “The Best of all Fishes” ในสายตาของผมเลยที่เดียว ผมลองเอาข้อมูลปลาทูบ้านๆ ที่เราชอบทานกันเนี่ย เทียบกับปลาแซลมอนและปลาเมคเคอเรล อันแสนไฮโซของฝั่งยุโรป จะพบว่า ปลาทูจะได้ประโยชน์พอๆ กับทานแซลมอนเลยนะครับ สิ่งที่ต้องคิดต่อไป ก็คือ แล้วจะไปจ่ายแพงกว่าทำไม ????
จากเอกสารข้อมูล สสส. พบว่า “ปลาทูจะมีสารโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก โดยในเนื้อปลาทู 100 กรัมมีสารโอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งปกติในหนึ่งวันร่างกายต้องการโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมต่อวัน
โดยโอเมก้า 3 นั้น เป็นไขมันประเภทไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ในเรื่องลดอัตราการตายจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ และยังลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ตลอดถึงยังลดความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ รวมทั้งสร้างความสมดุลและปรับระดับเลือดในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติได้”
และเมื่อทานคู่กับ “น้ำพริกกะปิ” ที่หาทานได้ทั่วไปแล้ว ต้องเรียกได้ว่า สุดยอดครับ วันนี้ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ อาทิตย์หน้า จะมาเล่าเรื่อง “น้ำพริกกะปิ” ต่อครับ
แนะนำร้านอาหารที่อร่อย ถูกปากคนไทย
ใครที่ชอบอาหารเหล่านี้ ควรจะพิจารณาดูครับ
-กุ้งเผา กุ้งแม่น้ำเผา ที่นี่เผาได้อย่างดี ไม่สุกจนเกินไปยังสีชมพู ๆ อยู่ อร่อย กุ้งสด ตัวใหญ่ น้ำจิ้มรสชาติอร่อย
-แกงเขียวหวานปลาดุก แทนที่จะเอาเนื้อปลาอื่นมาทำ เขาเอาของโบราณ ๆ มาทำ คือ ปลาดุก ยิ่งถ้าราดกินกับขนมจีนด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยมากขึ้นอีกครับ หรือกินกับข้าวร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นกัน
-แกงคั่วกบกระท้อน ซึ่งสมัยนี้ แกงคั่วทำแต่แกงคั่วหอยขม ส่วนแกงคั่วกบกระท้อนนั้นหากินยากครับ เนื้อแกงมีความเข้มข้น อร่อยมาก
-ไก่บ้านรวนกับ ขิงกรอบ หอมน่ากินมากครับ ความกรอบและความเค็มไม่มากเกินไปนัก กำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป ยังมีความ ชุ่มชื้นอยู่ในเนื้อไก่ กินกับข้าวร้อน ๆ เอาขิงกรอบที่ทอดโรยมาข้างบน เยอะ ๆ กินไปด้วย เป็นสมุนไพรที่ดีสำหรับในการที่จะช่วยย่อยด้วยนะครับ
-น้ำพริกกะปิ เขาทำแบบโบราณ ไม่หวาน ไม่เปรี้ยวจนเกินไป กลมกล่อมจริง ๆ นะครับ แต่ที่ผมชอบมาก คือ เครื่องเคียงที่เขาให้มาด้วยเพราะว่ามีเครื่องเคียงเต็มไปหมดเลย มีปลาทู ไข่ชะอม กินกับน้ำพริก ยังมีผักสดและผักลวกมาให้กินด้วย ถ้าจะให้อร่อยจริง ๆ ต้องกินกับ ปลาตะเพียนต้มเค็ม ที่ร้านนี้ปลาตะเพียนต้มเค็มไม่มีสารไม่มีอะไรใส่เข้าไปเจือปนอยู่ในนั้นเลย ทำแบบโบราณ ใช้เวลาต้มนานมาก ๆ เลยนะครับ และใช้ปลาตัวเบ้อเร่อเท่อเลย
-ผัดเผ็ดเห่าดง ทำแบบสมัยโบราณจริง ๆ ครับ แต่ว่าสมัยก่อนเขาคงเอางูเห่ามาสับนะครับ และทำเป็นผัดเผ็ดกินกับใบยี่หร่าจะเผ็ดร้อนและผัดแบบแห้ง ๆ แต่ที่ร้านแทนที่จะใช้งูเห่า ใช้ กระดูกหมู ที่มีกระดูกอ่อนแทน เอามาสับให้ละเอียด และสับด้วยมีดอีโต้ด้วยนะไม่ได้ใช้เครื่องสับเลย บอกได้เลย ว่ารสชาติดีมากและเอามาผัดแบบคั่วแห้ง ๆ กินกับใบยี่หร่า ร้อนแรงดีจริง ๆ
-ยำดอกแคเสิร์ฟกับ ไข่ต้มยางมะตูม อาหารจานนี้อร่อยมาก ไม่หวาน รสชาติกลมกล่อมกำลังดี
ผมต้องขอเรียนเชิญเพื่อน ๆ ลองแวะไปกินที่ร้านนี้กันดูนะครับ อย่าเพิ่งตกใจว่าร้านเขาดูโบราน แต่ว่าตอนนี้กำลังปรับปรุงและตกแต่งร้านให้ใหม่อยู่เพื่อให้ร่วมสมัย
สวนอาหาร นัดพบ ถ.พิบูลย์สงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โทรศัพท์ : 0-2525-2699,0-2526-4473, 0-1562-1762
ขอบคุณคะ